
รีวิวหนังสือ Notes on a Nervous Planet
ฝนเพิ่งอ่านหนังสือเล่มนี้จบไปเมื่อ 2 วันก่อน Notes on a Nervous Planet เป็นหนังสือเล่มต่อจากหนังสือเล่มแรกที่ Matt Haig เขียนชื่อ Reason To Stay Alive (ฝนรีวิวหนังสือเล่มนี้ไปเมื่อปลายปีที่แล้ว ใส่ link ไว้ข้างล่างนะคะกรณีที่อยากตามไปอ่านรีวิวของหนังสือเล่มนั้นค่ะ)
ในหนังสือ Reason To Stay Alive Matt เล่าถึงประสบการณ์ของตัวเองในขณะที่เขาต้องรับมือกับโรคซึมเศร้า รับมือกับความรู้สึก ความคิดที่เกิดขึ้นขณะที่เขามีอาการของโรคซึมเศร้า วิธีที่เขาใช้ในการดูแลตัวเอง ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างในขณะที่เขาไม่สบาย
ในหนังสือเล่มนี้ Notes on a Nervous Planet เป็นเรื่องราวของการอยู่ในโลกในปัจจุบันที่มักมีเรื่องราวที่ทำให้เราต้องวิตกกังวลหรือเครียดได้อยู่เสมอ Matt เขียนถึงสิ่งต่างๆในสังคมในปัจจุบันที่เป็นสาเหตุของความเครียดและความวิตกกังวลของเรา การอยู่ยังไงให้เราไม่เสียสติในความวุ่นวายของโลกในปัจจุบัน
เนื้อหาส่วนใหญ่ของหนังสือก็พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบันที่เราหลายๆคนก็ตระหนักอยู่แล้ว คำแนะนำหลายๆอย่างก็เป็นสิ่งที่เราหลายๆคนก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นสิ่งที่เราควรทำ แต่ Matt มีวิธีการเขียนที่ทำให้เราได้ย้อนทบทวนและย้อนดูตัวเอง และถามตัวเองว่าตอนนี้ตัวเองทำอะไรอยู่ ตัวเองมีพฤติกรรมยังไง และถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างในชีวิตของเรา
และก็คล้ายๆกับหนังสือ Reasons To Stay Alive หนังสือเล่มนี้ก็เขียนอยู่ในรูปแบบย่อหน้าสั้นๆ อ่านง่าย บางย่อหน้าก็เป็นลิสต์ข้อแนะนำสั้นๆที่นำไปใช้ได้
อีกสิ่งนึงที่ฝนชอบก็คือการเล่าถึงประสบการณ์ของตัวเองของผู้เขียน ที่เขียนได้ในเชิงที่ทำให้ฝนรู้สึกว่าเขาเข้าใจเรานะ เขาก็เป็นเหมือนเรา เขาก็เจอปัญหาเดียวกับที่เราเจอ เขาไม่ได้เพอร์เฟ็คและก็กำลังพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตัวเองอยู่เหมือนกัน
“Don’t compare your actual self to a hypothetical self. Don’t drown in a sea of ‘what ifs’. Don’t clutter your mind by imagining other versions of you, in parallel universes where you made different decisions.”
― Matt Haig
33 สิ่งที่ Matt บอกตัวเองเมื่อเขารู้สึกท่วมท้นกับชีวิต (จริงๆแล้วเขาลิสต์มา 40 แต่ฝนเลือกที่ในชอบมา 33 ข้อ) ฝนชอบ chapter นี้ของหนังสือเลยหยิบเอามาฝาก
- ไม่เป็นไรนะ
- ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะแย่ หากเป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถควบคุมได้ อย่าพยายามไปควบคุมมัน
- คุณรู้สึกว่าคนอื่นไม่เข้าใจคุณ เราต่างก็โดนเข้าใจผิดบ้าง อย่าไปกังวลกับการที่คนอื่นไม่เข้าใจในตัวคุณมากไป พยายามที่จะเข้าใจตัวเอง หากคุณเข้าใจในตัวเองแล้วเรื่องอื่นก็ไม่สำคัญเท่าไหร่
- ยอมรับในตัวเอง ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้มีความสุขกับสิ่งที่คุณเป็น อย่างน้อยก็เรียนรู้ที่จะยอมรับในสิ่งที่คุณเป็นในตอนนี้ คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ หากคุณยังไม่รู้จักตัวเอง
- หาหนังสือดีๆสักเล่มแล้วนั่งลงแล้วอ่าน เมื่อคุณรู้สึกหลงทางและสับสนในชีวิต การอ่านคือวิธีการกลับเข้าหาตัวเอง ยิ่งคุณอ่านเยอะเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งรู้วิธีก้าวผ่านช่วงเวลาที่ลำบากมากขึ้น
- อย่ารู้สึกว่าตัวเองต้อยต่ำ ไม่ว่าจะด้วยเพศ เชื้อชาติ โปรไฟล์เฟสบุ๊ค “If I let go of who I am I become who I might be” – Lao Tzu.
- เดินให้ช้าลง “Nature does not hurry, yet everything is accomplished.” – Lao Tzu
- จงมีความสุขกับการใช้อินเตอร์เน็ต อย่าใช้มันในเวลาที่คุณไม่ได้รู้สึกมีความสุขในการใช้มัน
- ตระหนักว่าคนอื่นหลายๆก็คนรู้สึกเหมือนคุณ อยู่ในสถานการณ์ หรือผ่านประสบการณ์ที่ยากลำบากเหมือนคุณ
- อย่าพยายามที่จะเป็น การพยายามเป็นเป็นสิ่งตรงกันข้ามกับการเป็น
- สิ่งที่ทำให้คุณพิเศษคือข้อบกพร่องต่างๆ ความไม่เพอร์เฟ็คต่างๆของคุณ จงยอมรับพวกมัน
- อย่าละเลยการกินอาหารเช้า
- เข้านอนก่อนเที่ยงคืน
- ในช่วงเวลาที่วุ่นวาย พยายามหาช่วงเวลาที่สงบให้ตัวเอง
- ซื้อของให้น้อยลง
- เล่นโยคะ เวลาที่ร่างกายของเราผ่อนคลาย โอกาสที่เราจะรู้สึกเครียดก็น้อยลง
- เมื่ออยู่ในช่วงที่ลำบากของชีวิต พยายามใช้ชีวิตแบบมีรูทีน
- อย่าเปรียบเทียบช่วงที่เลวร้ายของชีวิตคุณกับช่วงเวลาที่ดีๆของชีวิตคนอื่น
- ให้ความสำคัญกับสิ่งที่คุณจะคิดถึงที่สุดหากมันหายไป
- ออกไปวิ่ง ออกไปเต้น กินขนมปังปิ้งหน้าเนยถั่ว
- อย่าพยายามรู้สึกสิ่งที่คุณไม่รู้สึก อย่าพยายามที่จะเป็นสิ่งที่คุณเป็นไม่ได้ คุณจะรู้สึกหมดพลัง
- การเชื่อมต่อกับโลกรอบตัว ไม่จำเป็นต้องใช้ wifi
- หายใจ
- รักในตอนนี้ รักในขณะนี้ หากคุณมีคนหรือสิ่งที่คุณรัก อย่ารอที่จะรัก
- มองท้องฟ้า ท้องฟ้าเป็นสิ่งมหัศจรรย์
- ใช้เวลากับสัตว์เลี้ยง
- อย่าให้ค่าของตัวเอง เหมือนกับที่คนอื่นให้ค่าคุณ ไม่มีใครทำให้คุณรู้สึกด้อยค่าได้หากคุณไม่อนุญาต
- โลกอาจจะน่าเศร้า แต่อย่าลืมว่าในทุกวันมีคนแสดงน้ำใจต่อผู้อื่นอยู่เช่นกัน
- อย่าโทษตัวเอง หากคุณกำลังอยู่ในช่วงเวลาที่ลำบาก ไม่เป็นไรนะ จักรวาลก็วุ่นวาย เราก็วุ่นวายพอๆกับจักรวาล
- หากคุณรู้สึกเจ็บป่วยทางจิตใจ ดูแลตัวเองให้เหมือนกับที่คุณดูเลตัวเองเวลาที่คุณป่วยทางกาย ทำสิ่งที่คุณต้องทำเพื่อให้คุณรู้สึกดีขึ้น และไม่จำเป็นต้องรู้สึกอับอาย
- ร้องไห้ได้ไม่เป็นไร ผู้หญิงร้องไห้ ผู้ชายร้องไห้ ผู้ชายร้องไห้นั้นไม่ต่างไปจากผู้หญิงร้องไห้ มันเป็นเรื่องธรรมชาติ บทบาททางสังคมนั้นเป็นพิษ หากมันไม่อนุญาตให้เราแสดงออกของความเจ็บปวดหรืออารมณ์ที่อ่อนไหว Cry Human Cry Your Heart Out
- อนุญาตให้ตัวเองได้ล้มเหลว อนุญาตให้ตัวเองได้กลัว อนุญาตให้ตัวเองได้รู้สึกอ่อนแอ อนุญาตให้ตัวเองได้เปลี่ยนใจ อนุญาตให้ตัวเองได้เป็นคนที่ไม่เพอร์เฟ็ค อนุญาตให้ตัวเองพุ่งไปในชีวิตเหมือนลูกธนูที่มีจุดมุ่งหมาย
- พยายามลดความอยากของตัวเองให้น้อยลง ความอยากคือหลุม ความอยากได้คือความรู้สึกไม่เพียงพอในสิ่งที่ตัวเองมีในปัจจุบัน
“Accept feelings and accept that they are just that: feelings.”
― Matt Haig
ข้อคิดอื่นๆที่น่าสนใจ
- ทำงานให้น้อยลง ให้เวลาดูแลตัวเองบ้าง
เราอยู่ในสังคมที่ให้ความสำคัญกับการทำงานมากขึ้น เราอยู่ในสังคมที่มองเห็นการทำงานเกินวันละ 10 ชั่วโมงเป็นเรื่องโอเค การทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์เป็นเรื่องปกติ แทนที่การทำงานจะเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิตเรา หลายๆคนทำให้การทำงานเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เราบอกว่าเราให้ความสำคัญกับสุขภาพของตัวเอง ให้ความสำคัญกับคนในครอบครัว แต่ในขณะเดียวกันเรายอมหลายๆคนก็ยอมเสียสละเวลานอนให้เพียงพอเพื่อที่จะได้ทำงานได้มากขึ้น ยอมไม่ใช้เวลากับคนในครอบครัวเพื่อที่จะได้ทำงานมากขึ้น
- การนอนให้เพียงพอเป็นสิ่งที่สำคัญ
องค์การอนามัยโลกแนะนำให้นอนคืนละ 7-9 ชั่วโมง แต่มนุษย์วัยทำงานอย่างพวกเราส่วนใหญ่จะนอนไม่ถึงจำนวนชั่วโมงที่ได้รับการแนะนำ เรามักมีสิ่งที่เรารู้สึกว่าอยากทำอยู่เสมอ งานที่ยังค้างคาอยู่ ซีรีส์ที่อยากดู แฮชแทกใน Twitter ที่อยากตาม หนังสือที่อยากอ่าน ทั้งๆที่เรารู้ว่าการนอนที่เพียงพอจะช่วยพัฒนาทั้งคุณภาพจิตใจและร่างกายของเรา ตัวอย่างวิธีการนอนหลับให้ได้นานขึ้นและมีคุณภาพขึ้น เช่น นอนให้เป็นเวลา, หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และกาแฟใกล้เวลานอน, หยุดใช้มือถือก่อนนอน , เข้านอนให้เร็วขึ้น คำแนะนำเหล่านี้อาจจะดูเป็นอะไรที่ใครๆก็รู้ แต่สำหรับหลายๆคนก็ยังเป็นสิ่งที่ยากที่จะปฏิบัติตาม
- ต้องรู้จักตัดตัวเลือกที่ไม่จำเป็นออกไป เราอยู่ในวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยตัวเลือก และข้อมูลมากมายที่บางครั้งก็เยอะไปจนทำให้เรารู้สึกท่วมท้น
- เราไม่สามารถหยุดการพัฒนาของเทคโนโลยีได้ แต่เราสามารถเรียนรู้ที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ชีวิตเรา โดยที่ไม่ทำร้ายสุขภาพจิตใจของเราได้
- หยุดการกลัวตกข่าว ไม่ทันกระแสที่คนอื่นก็รู้กัน เราไม่ต้องทันทุกกระแสก็ได้ เรียนรู้ที่จะกรองสิ่งที่ไม่จำเป็นออก
- คนอื่นไม่ได้สนใจในหน้าตาของตัวเราเท่าที่เราคิดหรอก ในปัจจุบันเราหลายๆคนกังวลกับรูปร่างหน้าตาของตัวเองมาก เราพยามหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองผอมลง สวยขึ้น ดูเด็กขึ้น ทั้งๆที่บางครั้งวิธีเหล่านั้นอาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของตัวเองด้วยซ้ำ คนส่วนใหญ่สนใจในตัวเอง เขาไม่ได้สนใจในตัวคุณเท่าที่คุณคิดหรอก
- เรียนรู้ที่จะยอมรับในความไม่เพอร์เฟ็คของรูปร่างหน้าตาของตัวเอง คนที่เขารักเราเขาก็จะรักเราไม่ว่าเราจะมีรูปร่างหน้าตายังไง
- ขั้นตอนแรกในการที่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของตัวเองคือการตระหนักรู้ในตัวเอง
- สิ่งที่ดีต่อสุขภาพของเราเวลาที่เราเจ็บป่วยทางจิตนั้นก็ดีต่อเราในเวลาที่เราไม่ป่วยเช่นกัน เช่น การพักผ่อนที่เพียงพอ แสงแดด การออกกำลังกาย อากาศบริสุทธิ์ ธรรมชาติ เราไม่จำเป็นต้องรอให้ตัวเองป่วยก่อนเริ่มให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้
- เรียนรู้ที่จะมีความสุขและขอบคุณในสิ่งที่ตัวเองมี แทนที่จะอยากได้เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา
- เคล็ดลับความสุขที่สำคัญข้อนึงคือ การหยุดเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น
- เรียนรู้ที่จะยอมรับความล้มเหลวหรือผิดพลาด เราไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟ็ค ล้มเหลวบ้าง ผิดพลาดบ้าง ไม่เป็นไร ล้มแล้วลุก แล้วลองใหม่
“The sky, like the sea, can anchor us. It says: hey, it’s okay, there is something bigger than your life that you are part of, and it’s – literally – cosmic.” ― Matt Haig, Notes on a Nervous Planetรีวิว Reasons to Stay Alive https://www.facebook.com/FWsJourney/posts/156445999438820


You May Also Like

รีวิวหนังสือ Turtles All The Way Down
มิถุนายน 24, 2020
รีวิวหนังสือ The Ride of a Lifetime | เส้นทางไต่ฝัน โดย CEO ของ Walt Disney
ธันวาคม 21, 2020